ชุดสืบสวนตำรวจท่องเที่ยวตามจับแก๊งแขกขาวล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยวในสนามบินสุวรรณภูมิ
ตามนโยบายของรัฐบาลให้ดำเนินการเร่งรัดปราบปรามอาชญากรรมโดยเฉพาะอาชญากรรมที่ชาวต่างชาติได้เข้ามากระทำความผิด ในประเทศไทย และมีผลกระทบต่อประชาชนจำนวนมาก ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รอง ผบช.ทท., พล.ต.ต.นรเศรษฐ์ สุวรรณนิกขะ ผบก.ทท.1, พ.ต.อ.มนพร ลิขิตมานนท์ ผกก.3 บก.ทท.1 , พ.ต.อ.แมน รถทอง ผกก.สส.บช.ทท. , พ.ต.อ. ทองรชฎ เหรียญสุวงษ์ ผกก.สภ.ท่าอากาศยานฯ, พ.ต.ท.อภิรุ่ง เพียรมงคล รอง ผกก.3 บก.ทท.1 แถลงผลการปฏิบัติงาน ” ตำรวจท่องเที่ยว กก.3 บก.ทท.1 (ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ) “จับกุมแก๊งแขกขาวลักทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวจีนในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ” หลังเฝ้าติดตามพฤติกรรมอยู่นาน ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.เสกสันติ์ ฐิรเรืองรัตน์ สว.กก.3 บก.ทท.1 ,พ.ต.ท.กฤตพร แสงสุระ สว.กก.สืบสวน บช.ทท นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจท่องเที่ยว

ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหา ดังนี้
1. MR. KACED อายุ 59 ปี สัญชาติ แอลจีเรีย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 493/2568 ลงวันที่ 31 พฤษภาคม 2568
2. MR. HAMMOUDA อายุ 58 ปี สัญชาติ แอลจีเรีย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 494/2568 ลงวันที่ 31 พฤษภาคม 2568
ในความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์ในท่าอากาศยานและใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น”มูลค่าทรัพย์สินรวมประมาณ 40,000 บาท

ด้วยเมื่อวันพุธที่ 28 พฤษภาคม 2568 เวลาประมาณ 21.40 น.ศูนย์รับแจ้งเหตุกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว รับแจ้งผ่านทางแอพลิเคชั่น Thailand Tourist Police Application ว่า MR.Yang ( ผู้เสียหาย ) นักท่องเที่ยวชาวจีน ว่าถูกลักทรัพย์บริเวณอาคารผู้โดยสารชั้น 1 ประตู 4 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในวันดังกล่าว เวลาประมาณ 18.00 น.
พฤติการณ์คือ ผู้เสียหายมารอรถที่ชั้น 1 ประตู 4 แต่สังเกตว่ามีคนเดินตามและมายืนใกล้ๆ ตนและเพื่อน ต่อมาพบว่ากระเป๋าถูกเปิดออกและมีทรัพย์สินหายไป เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนตำรวจท่องเที่ยวสนามบินสุวรรณภูมิ จึงประสานฝ่ายรักษาความปลอดภัยการท่าอากาศยานฯ ทำการตรวจสอบภาพวงจรปิด พบพฤติกรรมของคนร้าย เป็นผู้ชายชาวต่างชาติจำนวน 2 คน เดินทางเข้ามาที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิโดยรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ และเดินตามผู้เสียหายไปจนถึงจุดรถรถโดยสารแท๊กซี่ ชานชาลาชั้น 1 ประตู 4 ในขณะที่ผู้เสียหายลุกขึ้นเพื่อมองหารถ คนร้ายทั้ง 2 คน อาศัยจังหวะที่ผู้เสียหายเผลอค้นกระเป๋าของผู้เสียหาย และคนร้ายอีกคนได้ยืนบังไม่ให้ผู้เสียหายเห็น เมื่อได้ทรัพย์สินแล้วก็ได้เดินหนีออกจากบริเวณดังกล่าวไป

จากการสืบสวนทราบว่าคนร้ายทั้ง 2 รายดังกล่าว เป็นแก๊งแขกขาว สัญชาติแอลจีเรีย พฤติกรรมของแก๊งนี้คือแต่ละคนมีการแบ่งหน้าที่กันทำ และจะก่อเหตุย่านที่มีผู้คนพลุกพล่าน เช่นตามสถานีรถไฟฟ้า สนามบิน โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย จะตระเวนหาเหยื่อตามสถานีรถไฟฟ้า เรื่อยมาจนถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อพบเหยื่อก็จะเดินตามประกบผู้เสียหายและเมื่อสบโอกาส จึงลงมือล้วงกระเป๋าเงินไป หลังจากได้ทรัพย์สิน คนร้ายจะนำบัตรเครดิตของผู้เสียหายไปตระเวนรูดซื้อสินค้าแบรนด์เนมที่มีราคาแพง ตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ
เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานให้พนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ขอศาล จ.สมุทรปราการ อนุมัติออกหมายจับ และสืบทราบว่าคนร้ายทั้ง 2 ราย มีที่พักอยู่ย่านรามคำแหง จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนออกติดตามจนกระทั่งสามารถจับกุมตัวได้พร้อมด้วยของกลางเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ และยังตรวจยึดทรัพย์สิน ของแบรนด์เนมอีกจำนวนหนึ่ง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป